เมนู

103. อรรถกถาอุปปลหัตถิยเถราปทาน


อปทานของท่านพระอุปปลหัตถิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ติวรายํ
นิวาสีหํ
ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญกุศลไว้ในพระชินวรพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ
สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแก่พระนิพพานในภพนั้น ๆ ในกาลแห่ง
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า สิทธัตถะ บังเกิดขึ้นตระกูลแห่งช่าง
ดอกไม้ เจริญวัยแล้ว ขายดอกไม้เป็นอันมาก เลี้ยงชีพด้วยการงานแห่ง
ช่างดอกไม้เป็นอยู่. ภายหลังวันหนึ่ง ท่านถือเอาดอกไม้เที่ยวไป เห็น
พระผู้มีพระภาคเจ้ากำลังเสด็จเที่ยวไป เหมือนแก้วมณีที่มีค่ามาก บูชาด้วย
ดอกอุบลแดง ท่านจุติจากอัตภาพนั้นแล้ว ด้วยบุญกรรมนั้นนั่นเอง เสวย
บุญสมบัติในสุคติ ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูล เจริญ
วัยแล้ว เกิดศรัทธา บวชแล้วไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์.
ครั้นภายหลัง ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อจะ
ประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า ติวรายํ นิวาสีหํ ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ติวรา ความว่า นครที่สร้างโดยปิดการ
สัญจรไปมา รวม 3 ครั้ง เราอยู่ในติวรานครนั้น คือมีการอยู่เป็นปกติ
นั้น หรืออยู่ในเรือน อันเป็นที่อยู่ของตน. บทว่า อโหสึ มาลิโก ตทา
ความว่า ในกาลนั้น คือในสมัยเป็นที่บำเพ็ญบุญสมภารเพื่อประโยชน์
แก่พระนิพพาน กระทำการค้าขายเลี้ยงชีพ เหมือนช่างดอกไม้ คือนาย
มาลาการ เก็บดอกไม้ฉะนั้น. บทว่า ปุปฺผหตฺถมทาสหํ ความว่า เรา
เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า สิทธัตถะ ได้ถวายกำดอกอุบลบูชา.
คำที่เหลือในบททั้งปวงมีอรรถง่ายทั้งนั้นแล.
จบอุปปลหาตถิยเถราปทาน

ปทปูชกเถราปทานที่ 4 (104)


ว่าด้วยผลแห่งการถวายดอกมะลิ


[106] เราได้ถวายดอกมะลิแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระนามว่า
สิทธัตถะ ดอกมะลิ 7 ดอกเราโปรยลงใกล้พระบาทด้วย
ความยินดี.

ด้วยกรรมนั้น วันนี้เราได้ครอบงำทั้งนระและเทวดาแล้ว เรา
ทรงกายอันมีในที่สุดอยู่ในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.

ในกัปที่ 94 แต่กัปนี้ เราบูชาพระพุทธเจ้าด้วยดอกไม้ใด
ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชาด้วย
ดอกไม้.

ในกัปที่ 5 แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 13 ครั้ง
มีพระนามว่าสมันตคันธะ ครอบครองแผ่นดินมีสมุทรสาคร 4
เป็นที่สุด เป็นจอมหมู่.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระปทปูชกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบปทปูชกเถราปทาน